ปราการ | 29 ก.ย. 2557 20:07 IP Address: 171.100.212.60 |
Email:prakarn7767@gmail.com |
สอบถาม
สอบถามหน่อยครับคุณเทพ ในการเลือกใช้ RBและREให้กับเพาเวอร์ทรานซิสเตอร์มีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาอย่างไรครับ ค่ามากหรือค่าน้อยมีผลต่อเสียงอย่างไรและมีผลกระทบกับตัวเพาเวอร์ทรานซิสเตอร์อย่างไรครับ(ไม่รู้จริงๆ ที่ผ่านมาก็ใส่ค่าตามวงจรที่กำหนดไว้ครับ) ขอเป็นความรู้ให้กับสมาชิกด้วยนะครับ |
Admin | 29 ก.ย. 2014 21:18 IP Address: 27.130.167.106 ลบ |
ผู้ดูแลเว็บไซต์ |
น่าจะหมายถึงกรณีขนานtr ภาคo/p หลายๆตัว
RB ทำหน้าที่เฉลี่ยแรงดัน ให้กับbase ของtr แต่ละตัวให้ใกล้เคียงกัน รวมถึงทำหน้าที่ไม่ให้มีการโหลดกันระหว่างภาคdrive กับภาคo/p หากใช้ค่ามากไปอาจทำให้ความไวอินพุทของวงจรลดลง RE ทำหน้าที่เฉลี่ยกระแสให้TR o/p แต่ละตัว มีค่าใกล้เคียงกัน หากใช้ค่าน้อยไป อาจทำให้การเฉลี่ยกระแสไม่ได้ผลเท่าที่ควรหรือหากมากไปเอาท์พุทimp ของวงจรจะสูงขึ้นมีผลต่อค่าdamping factor ของวงจร หรือบางวงจรอาศัยแรงดันที่ตกคร่อมre ไปอ้างอิงให้วงจรป้องกันการลัดวงจรของo/p จะทำให้จุดทำงานคลาดเคลื่อน **ใช้ค่าที่ผู้ออกแบบวงจรกำหนดหรือแตกต่างบ้างเล็กน้อยน่าจะเหมาะสมที่สุดครับ** |
ปราการ | 29 ก.ย. 2014 21:32 IP Address: 171.100.212.60 ลบ |
Email:prakarn7767@gmail.com |
กระจ่างเลยครับแต่ขอคำอธิบายของdampling factor เพิ่มด้วยครับเท่าที่รู้มาค่ายิ่งสูงยิ่งดีจริงเท็จประการใดครับ
|
Admin | 29 ก.ย. 2014 21:54 IP Address: 27.130.167.106 ลบ |
ผู้ดูแลเว็บไซต์ |
[quote=ปราการ @ 29 กันยายน 2014 21:32:30]กระจ่างเลยครับแต่ขอคำอธิบายของdampling factor เพิ่มด้วยครับเท่าที่รู้มาค่ายิ่งสูงยิ่งดีจริงเท็จประการใดครับ[/quote]ใช่ครับ
ค่า dampling factor อธิบายแบบชาวบ้านคือ ความสามารถในการหยุดการเคลื่อที่ของกรวยลำโพง ซึ่งแปรผันตรงกับO/P IMP ที่ต่ำของAMP ยิ่งต่ำจะทำให้เปรียบเสมือนว่าเมื่อไม่มีเสียงเข้ามากรวยลำโพงจะหยุดการเคลื่อนตัวโดยฉับพลัน ทำให้เสียงที่ขยายออกมามีรายละเอียดดี ไม่คลุมเคลือ อิมเมจ ซาวด์สเตทแยกแยะชัดเจน ( แต่ค่า dampling factor จะไม่มีความสำคัญมากนักกับเครื่องขยายประเภทหลอด เพราะจะมีเรื่องของ HARMONIC ของเสียงมาเกี่ยวข้องด้วย ) |